ทำความรู้จักกับโรคสะเก็ดเงิน โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) เป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังที่พบบ่อย ลักษณะรอยโรคเป็นผื่นแดง นูน หนา มีสะเก็ดสีขาวลอกเป็นขุยจำนวนมาก และมักจะเป็นๆ หายๆ

โดยพบผู้ป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงินประมาณร้อยละ 1-2 ของประชากรทั่วโลก โดยสามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย ส่วนใหญ่พบในวัยผู้ใหญ่ เนื่องจากมีปัจจัยกระตุ้นให้เกิดโรคมากกว่า สำหรับในประเทศไทย ปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาถึงอุบัติการณ์ และความชุกของโรคในประชากรทั่วไป จากสถิติผู้ป่วยที่มาเข้ารับการตรวจวินิจฉัยที่แผนกผิวหนังในโรงพยาบาลต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯ พบได้ประมาณร้อยละ 10
ทำไมจึงเป็นโรคสะเก็ดเงิน โรคสะเก็ดเงินเกิดจากอะไร?
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดโรคสะเก็ดเงิน แต่มีหลักฐานสนับสนุนว่าน่าจะเกิดจากความบกพร่องของระบบอิมมูนร่วมกับความผิดปกติของสารพันธุกรรม ที่กระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังเจริญเร็วกว่าปกติ จากที่ใช้เวลา 28-30 วัน ในการเจริญเต็มที่และหลุดออกไป แต่ในผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน วงจรนี้จะลดลงเหลือเพียง 2-3 วัน ทำให้ผิวหนังมีการหนาตัวขึ้น และมีสะเก็ดเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังพบว่า ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดโรคสะเก็ดเงิน ได้แก่ การเสียดสี การกระทบกระแทก แกะเกาบาดแผล รวมไปถึงปัจจัยทางจิตใจและสังสม ความเครียด การดื่มสุรา โรคติดเชื้อ คออักเสบ สารเคมีบางชนิด ได้แก่ ยาลดความดันชนิดต้านเบต้า ยาทางจิตเวช ยาต้านมาลาเรีย เป็นต้น สามารถเป็นปัจจัยกระตุ้นให้โรคสะเก็ดเงินเกิดการกำเริบได้
ผื่นสะเก็ดเงินเป็นอย่างไร?
รอยโรคสะเก็ดเงินที่พบบ่อยที่สุด คือ มากกว่า 80% ของผู้ป่วย มีลักษณะเป็นผื่นนูนแดง นูน หนา เป็นรูปร่างกลม และมีสะเก็ดเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบผื่นผิวหนังได้อีกหลายลักษณะ คือ
- ผื่นขนาดเล็กๆ เป็นตุ่มนูนแดง มีขุยกระจายทั่วไป ในบริเวณลำตัว แขน และขา
- ผื่นเป็นตุ่มหนองตื้นบนรอยโรคสีแดง
- ผื่นแดงอักเสบบริเวณซอกรักแร้ ซอกขา
- ผื่นแดงลอกทั้งตัว
โดยผื่นสะเก็ดเงิน จะพบได้บ่อยที่บริเวณ หนังศีรษะ ผิวหนังที่มีการเสียดสี แกะ เกา เช่น ศอก เข่า ลำตัว ก้นกบ และยังสามารถพบได้ทุกแห่งของร่างกาย ได้แก่ เล็บ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า อวัยวะเพศ โดยการกระจายของผื่นมักจะเกิดขึ้น 2 ข้างของร่างกายเท่าๆ กัน

โรคสะเก็ดเงิน ติดต่อได้หรือไม่?
โรคสะเก็ดเงินไม่นับว่าเป็นโรคติดต่อ เนื่องจากไม่ได้เกิดจากเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา ดังนั้น ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย จึงไม่ต้องกังวลว่าจะสามารถติดต่อโรคนี้ได้
จะทราบได้อย่างไรว่าเป็นโรคสะเก็ดเงิน? วิธิการตรวจวินิจฉัยโรคสะเก็ดเงิน
แพทย์สามารถตรวจวินิจฉัยโรคสะเก็ดเงินจากการตรวจหารอยโรคของผู้ป่วย โดยไม่ต้องทำการตรวจเจาะเลือด หรือตรวจทางห้องปฏิบัติการอื่นๆ ในกรณีพิเศษซึ่งสามารถพบได้น้อยมาก คือ รอยโรคมีลักษณะต่างไปจากรอยโรคมาตรฐาน อาจต้องมีการตัดตัวอย่างผิวหนังเพื่อไปตรวจทางพยาธิวิทยาต่อไป
ใครมีโอกาสเป็นโรคสะเก็ดเงินได้บ้าง? การคาดการณ์ว่าจะมีโอกาสเป็นโรคสะเกิดเงินหรือไม่? สามารถทำได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน 1 ใน 3 จะมีประวัติญาติที่ป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงินด้วย อย่างไรก็ตาม การเกิดโรคสะเก็ดเงินนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับปัจจัยทางพันธุกรรมเพียงอย่างเดียว

“ปวดข้อ” ภาวะแทรกซ้อนของโรคสะเก็ดเงิน
อาการข้ออักเสบจากโรคสะเก็ดเงิน พบได้ประมาณ 1 ใน 4 ของผู้ป่วย และมักพบความผิดปกติของเล็บร่วมด้วย อาการปวดข้อคล้ายกับอาการปวดโรครูมาตอยด์ แต่จะมีอาการรุนแรงน้อยกว่า ข้อและเนื้อเยื่อรอบๆ ข้อจะมีอาการอักเสบ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง จะมีการทำลายของข้อ และทำให้ข้อเกิดการผิดรูปอย่างถาวรได้ ดังนั้น หากผู้ป่วยมีอาการปวดข้อร่วมด้วย ควรมาปรึกษาพบแพทย์
โรคสะเก็ดเงินรักษาได้อย่างไร?
โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่มีอาการเห่อและลดลงสลับกันไป โดยระยะเวลาการสงบโรคอาจสั้นเป็นสัปดาห์ หรือยาวนานได้หลายปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการรักษาและปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดดรค ส่วนใหญ่แล้ว โรคสะเก็ดเงินจะสงบลงหากผู้ป่วยได้รับการรักษาที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นดังกล่าวข้างต้น
ปัจจุบันการรักษาโรคสะเก็ดเงิน ยังไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาดได้ ผู้ป่วยจะต้องให้ความร่วมมือในรักษาและดูแลตนเองอย่างถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์ จึงจะสามารถช่วยควบคุมโรคให้สงบ ไม่ให้มีอาการกำเริบ และทำให้ผู้ป่วยมีชีวิตได้อย่างมีความสุข