Home > วัคซีนที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรฉีด
แพ็กเกจคลอดเหมาจ่าย
“เพราะลูกคือของขวัญสุดพิเศษ” ต้อนรับสมาชิกตัวน้อยของครอบครัว กับแพ็กเกจคลอดบุตร แบบคลอดเหมาจ่าย (Delivery Package) โรงพยาบาลศิครินทร์ พร้อมให้การดูแลคุณแม่และลูกน้อยตลอด 24 ชั่วโมง โดยให้การดูแลโดยสูติแพทย์ กุมารแพทย์รับเด็ก และทีมพยาบาลผู้เชี่ยวชาญในการดูแลทารกแรกเกิด
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรฉีดวัคซีนอะไรบ้าง?
การสร้างภูมิคุ้มกันให้กับคุณแม่ตั้งครรภ์ เป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้คุณแม่และทารกปลอดภัยจากการติดเชื้อตั้งแต่อยู่ในครรภ์และขณะคลอด แม้ว่าคุณแม่จะเคยได้รับวัคซีนมาก่อนแล้วก็ตาม ซึ่งคุณแม่ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนที่จำเป็น ได้แก่
- วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ : ควรฉีดวัคซีนในไตรมาสที่ 3 หลัง 28 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นอันตรายต่อคุณแม่ เพราะจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ ไม่ว่าจะเป็นภาวะปอดบวม ภาวะเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ หรือภาวะหัวใจวาย คุณแม่ตั้งครรภ์จึงควรรับวัคซีนนี้
แพ็กเกจวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์
- วัคซีนป้องกันบาดทะยัก : โดยฉีดเข็มแรกเดือนที่ 1 และเข็มที่ 2 ในเดือนที่ 6 แต่ถ้าในกรณีฉีดครบ 3 เข็ม ภูมิจะคุ้มกันในส่วนของคุณแม่ตั้งครรภ์อีกด้วย โดยเข็มที่ 3 จะฉีดหลังคลอดไปแล้ว เนื่องจากการคลอดบุตรจะมีแผลเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นคลอดธรรมชาติ หรือผ่าคลอด การฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับคุณแม่และยังส่งผลดีต่อลูกในครรภ์ด้วย
- วัคซีนคอตีบ ไอกรน : เพื่อช่วยป้องกันโรคคอตีบ และไอกรน ในแม่และลูกน้อยที่จะเกิดมา วัคซีนไอกรนมักอยู่ร่วมเข็มกับวัคซีนบาดทะยักและคอตีบ โดยแนะนำให้ฉีด 1 เข็ม ทุกครั้งที่ตั้งครรภ์ โดยฉีดได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 27 – 36 สัปดาห์ เพราะเป็นช่วงที่ภูมิต้านทานจะไปสู่ลูกได้มากที่สุด

ข้อควรรู้! สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ควรดูแลตัวเองอย่างไร?
แชร์บทความ
ข้อมูลสุขภาพ แม่และเด็ก