ปวดหลัง เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้โดยทั่วไปในทุกเพศทุกวัย ซึ่งอาการปวดหลัง ในแต่ละบริเวณก็จะมีสาเหตุของการปวดที่แตกต่างกันไป
ปวดหลังส่วนบน
อาการปวดหลังส่วนบน อาจมีสาเหตุมาจากการก้มเล่นมือถือนานๆ หรือการแบกกระเป๋าหนัก
“ชอบสะพายกระเป๋าหนักๆ ข้างเดียว” คนใกล้ตัวของคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้หรือไม่?!
การสะพายกระเป๋าไว้ข้างๆ ลำตัว หากกระเป๋ามีน้ำหนักมากเกินไป จะทำให้กล้ามเนื้อทำงานหนักขึ้น เพราะเราต้องเกร็งกล้ามเนื้อต้นคอ บ่า ไหล่ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ศีรษะตั้งตรง หันไปมาตามต้องการได้ และทำให้เกิดอาการไหล่เอียง ตัวเอียงโดยไม่รู้ตัว
อาการไหล่เอียง เป็นอาการที่ทุกคน โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่ชอบสะพายกระเป๋ามักเป็นโดยไม่รู้ตัว หากยังคงมีพฤติกรรมสะพายกระเป๋าหนักๆ ต่อไป จะส่งผลเสียระยะยาวต่อร่างกายซึ่งรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน และยังทำให้เสียบุคลิกอีกด้วย

ปวดหลังส่วนกลาง
อาการปวดหลังส่วนกลาง อาจเกิดจากการก้มยกของหนัก นอนเตียงนุ่มหรือแข็งเกินไป
ปวดหลังส่วนล่าง
อาการปวดหลังส่วนล่าง อาจมีสาเหตุมาจากน้ำหนักตัวเยอะเกินไป การยืนหรือนั่งนานๆ
อาการปวดหลัง ยังอาจบ่งบอกถึงความผิดปกติบางอย่างที่ร่างกายส่งสัญญาณเตือนออกมา อย่านิ่งนอนใจ หากคุณมีอาการปวดหลังอยู่บ่อย ๆ คุณอาจมีความผิดปกติ ดังนี้
- ปวดหลังหลังจากการยกของหนัก อาจเกิดจากกล้ามเนื้ออักเสบ
- ปวดแนวกระดูกกลางหลัง มักเป็นอาการของหมอนรองกระดูกสันหลัง หรือเอ็นยึดระหว่างกระดูกสันหลัง
- ปวดหลังเยื้องออกมาด้านข้าง อาจเกิดจากกล้ามเนื้อหลังมีความผิดปกติ
- ปวดหลังร่วมกับมีอาการชา-อ่อนแรง อาจเกิดความผิดปกติเกี่ยวกับระบบประสาท หรือเส้นประสาทผิดปกติ
- ปวดร้าวเหมือนไฟฟ้าช็อต อาจมีสาเหตุมาจากเส้นประสาทอาจถูกกดเบียด
- ปวดหลังแบบล้าๆ เมื่อยๆ มีจุดที่กดแล้วปวดมากขึ้น อาจเกิดจากกล้ามเนื้อ

อาการปวดหลังสามารถรักษาได้โดยเริ่มจากตัวเรา เพียงหันมาใส่ใจตนเองสักนิด ปรับพฤติกรรมสักหน่อย คุณก็สามารถจัดการกับโรคปวดหลัง ปัญหาสุขภาพน่ากวนใจนี้ได้ โดยมีคำแนะนำดังนี้
นั่ง ควรนั่งเก้าอี้ให้เต็มก้น และเอนหลังไปที่พนักพิง เพื่อให้ร่างกายถ่ายน้ำหนักบางส่วน ไปที่เก้าอี้แทนที่จะทรงตัวด้วยกระดูกสันหลังเท่านั้น
ยืน ควรยืนให้ขากว้างเท่ากับสะโพก โดยน้ำหนักไปที่ขาทั้งสองข้างเท่ากันเพื่อความสมดุลของร่างกาย
นอน ไม่นอนคว่ำหรือนอนในท่ากึ่งนอนกึ่งนั่ง ควรนอนหงายบนเตียงสบาย ๆ จะทำให้กระดูกสันหลังเรียงตัวได้ดีไม่คดโค้ง โดยเตียงต้องไม่แข็งหรือนุ่มเกินไป
หากคุณมีอาการปวดหลังเรื้อรังเป็นเวลานานมากกว่า 4 สัปดาห์ อย่านิ่งนอนใจ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการ และรับการรักษาอย่างถูกวิธี ก่อนโรคร้ายมาเยือน
หากมีอาการปวดหลังเรื้อรัง ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
สถาบันกระดูกและข้อ https://bit.ly/2Sc8VlL