นายแพทย์ธรรมโรจน์ ปุญญ์โชติ
แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู
“หากคุณมีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ เรื้อรัง … ต้องอ่าน!”
ปัจจุบันมีประชากรกว่าร้อยละ 30 ที่มีปัญหาเรื่องอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานออฟฟิศ สาเหตุมาจากท่านั่งทำงาน ที่ทำให้เกิดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อเป็นก้อนเล็กๆ ขนาด 0.5-1 ซม. เรียกว่า “Trigger Point” หรือก็คือ จุดกดเจ็บที่ซ่อนอยู่ในกล้ามเนื้อหรือเยื่อพังผืด
อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง
สำหรับผู้ที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง สามารถสังเกตอาการได้ว่า จะมีอาการ “ปวดกล้ามเนื้อ ปวดร้าวลึกๆ ของกล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย อาจปวดตลอดเวลา หรือปวดเฉพาะเวลากดแล้วรู้สึกเจ็บ ความรุนแรงของการปวด มีตั้งแต่เริ่มรำคาญไปจนถึงทรมานจนไม่สามารถขยับบริเวณนั้นได้ บางรายอาจมีอาการมือชา เท้าชา และขาชาร่วมด้วย และบางรายอาจมีอาการนอนหลับยาก หรือถึงขั้นนอนไม่หลับ และขั้นที่เลวร้ายอาจลามไปถึงโรคที่เกี่ยวกับกระดูกเลยทีเดียว”
ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังเกิดจากอะไร
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรังเกิดจาก
ท่านั่งทำงานที่ไม่เหมาะสม ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งตัวต่อเนื่อง เช่น การใช้คอมพิวเตอร์
การออกกำลังกายผิดวิธีหรือการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อซ้ำๆ ทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อมากเกินไป
ขาดการบริหารกล้ามเนื้อและการออกกำลังกาย
ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง รักษาหายได้
ปัจจุบันมีวิธีรักษาที่เรียกว่า “Trigger Point Therapy” เป็นการรักษาที่ลดอาการปวดที่เกิดจากการเกร็งของกล้ามเนื้อ ด้วยการสลายจุด Trigger Point และป้องกันการกลับมาของอาการปวด ใช้เวลาในการรักษาเพียงอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง โดยทำประมาณ 4 – 6 ครั้ง
ขั้นตอนในการรักษานั้นมีตั้งแต่ การกินยา การฝังเข็ม การทำกายภาพบำบัด และการฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ ซึ่งขึ้นกับความรุนแรงของอาการแต่ละบุคคลที่มากน้อยแตกต่างกันไป แต่ผู้ที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อทุกๆ คนต้องเข้าใจว่า อาการนี้จะไม่หายขาด เพราะโรคนี้ส่วนใหญ่แล้วมาจากการทำงาน ทุกคนจึงควรได้รับความรู้ที่ถูกต้องและการดูแลกล้ามเนื้อให้ถูกวิธี อาการดังกล่าวก็จะหายไปได้
“เพื่อไม่ให้โรคปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังกลับมาเป็นอีก
ผู้ป่วยต้องดูแลและบริหารกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอ”
ฝึกการเหยียดยืดกล้ามเนื้อบริเวณลำตัว โดยการประสานมือเข้าด้วยกันแล้วยืดมือออกไปด้านหน้า จากนั้นค่อยยกขึ้นด้านบน โยกไปด้านซ้ายและขวา
การเหยียดยืดกล้ามเนื้อข้างลำตัวและหลังต้นขา เช่น ประสานมือเข้าด้วยกัน แล้วยืดมือออกไปด้านบน จากนั้นค่อยๆโยกลำตัวไปด้านข้างจนเอวรู้สึกตึง ทำสลับอีกข้าง
หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการเสี่ยง และหากมีอาการปวดคอ บ่า ไหลเรื้อรัง หรือปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ควรจะเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการรักษาอย่างถูกวิธีต่อไป”