ยุงลาย…ตัวการพาหะนำโรคร้ายสุดโหด ไข้เลือดออก พบได้ในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะในช่วงที่ฝนตกแบบนี้ อาจทำให้เสี่ยงเป็นโรคไข้เลือดออกได้มากขึ้น
ไข้เลือดออก ต้องระวัง! เป็นซ้ำยิ่งอันตราย
ผู้ที่เคยติดเชื้อไข้เลือดออกมาแล้ว จะมีภูมิคุ้มกันบางส่วน ทำให้ร่างกายตอบสนองต่อการติดเชื้อครั้งที่ 2 หรือครั้งต่อๆ มา ได้มากขึ้นกว่าปกติ
ในครั้งถัดมาของการติดเชื้ออาการของโรคมักจะหนักมากกว่าครั้งก่อน มีความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
ร่างกายเกิดสับสน และทำงานได้ไม่ดีพอ ไม่สามารถสู้กับเชื้อไวรัสได้อย่างทันเวลา
ในผู้ป่วยบางรายภูมิต้านทานอาจผันตัวเองไปเป็นตัวช่วยให้เชื้อไวรัสนั้นแข็งแรงขึ้น กระจายตัวได้มากขึ้น

ไม่อยากเป็นซ้ำต้องทำอย่างไร?
ปัจจุบันยังไม่มียาที่จะนำมารักษาโรคไข้เลือดออกโดยตรง วิธีการป้องกันที่ดีที่สุดคือไม่ให้ยุงลายกัด ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย และฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก ช่วยป้องกันลดการติดเชื้อ 50% ลดความรุนแรงของโรค 80% และลดอัตราการเสียชีวิต 90%

ไข้เลือดออกกับอาการที่ต้องสังเกต
- มีไข้สูง 39 – 40 องศา เกิน 2 วัน
- ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว
- ปวดกระบอกตา ตัวแดง ตาแดง
- อ่อนเพลีย ซึมลง
- เบื่ออาหาร อาเจียน
- อาจพบจ้ำเลือดหรือจุดเลือดตามผิวหนัง
- ท้องอืด ถ่ายเหลว อุจจาระมีสีดำ
หากพบว่ามีอาการดังกล่าว ควรพบแพทย์ทันที! และห้ามซื้อยารับประทานเองเด็ดขาด ไข้เลือดออก อันตรายอย่างไร? ทำความรู้จักกับโรคไข้เลือดออก โรคอันตรายใกล้ตัวที่พบบ่อยๆ โดย แพทย์หญิงวรฉัตร เรสลี – อายุรแพทย์เฉพาะทางโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลศิครินทร์
โรคชิคุนกุนยา VS โรคไข้เลือดออก อาการแตกต่างกันอย่างไร ?