สังคมปัจจุบัน ที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ ทำให้ “ข้อเท้าแพลง” เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็น การเดินหรือวิ่งบนพื้นผิวขรุขระ การก้าวบันไดผิดขั้น การใส่รองเท้าส้นสูง การเล่นกีฬาออกกำลังกาย ปัญหาเรื่องการทรงตัวของผู้สูงอายุ การมีน้ำหนักตัวมากเกินไป การสวมรองเท้าไม่เหมาะกับขนาดเท้า เป็นต้น
ข้อเท้าแพลงนั้นเกิดจากการบิด หมุน หรือพลิกของข้อเท้าอย่างรวดเร็วจนเกินช่วงการเคลื่อนไหวที่ปกติ ทำให้เอ็นยึดข้อต่อถูกยืดออกมากจนเกินไปหรือฉีกขาด จึงเกิดการบาดเจ็บขึ้น ส่งผลให้เกิดการอักเสบ ปวด บวม แดง กระดูกอ่อนในข้อได้รับบาดเจ็บ และอาจทำให้กระดูกหัก โดยอาการข้อเท้าแพลงจะแบ่งตามความรุนแรงได้ 3 ระดับ
-
ข้อเท้าแพลงชนิดไม่รุนแรง มีอาการปวดบวมเล็กน้อย
-
ข้อเท้าแพลงชนิดปานกลาง มีการฉีกขาดของเอ็นบางส่วน ทำให้มีอาการปวดบวมเฉพาะที่และอาจมีเลือดคั่ง
-
ข้อเท้าแพลงชนิดรุนแรง เอ็นข้อเท้าด้านนอกฉีกขาด ข้อเท้าสูญเสียความมั่นคง เดินลงน้ำหนักไม่ได้ ปวดบวมมากและมีเลือดคั่ง ต้องเข้ารับการผ่าตัด
** ข้อควรรู้ในการปฐมพยาบาล**
-
สิ่งแรกที่ต้องทำเป็นอันดับแรกคือ นั่งพักแล้วยกขาสูงเหนือระดับหัวใจ เพื่อลดอาการอักเสบและการบวมของข้องเท้า ห้ามฝืนเดินต่อ
-
นำนํ้าแข็งมาประคบข้อเท้าเพื่อลดอาการอักเสบ และนำผ้ามาพันยึดข้อเท้าไม่ให้ข้อเท้าเคลื่อนไหวได้ เพราะอาจจะไปกระตุ้นให้เส้นเอ็นรอบข้อเท้าอักเสบเพิ่มขึ้น
-
ห้ามประคบด้วยความร้อน ภายใน 24 ชั่วโมง! เพราะความร้อนจะทำให้เลือดมาไหลเวียนบริเวณนั้นมากยิ่งขึ้นจนเกิดอาการบวมได้
-
ห้ามนวดด้วยมือและนวดน้ำมันที่มีฤทธิ์ร้อนในขณะที่ยังบาดเจ็บอยู่ เพราะการนวดนั้นอาจไปกระตุ้นให้เกิดการบาดเจ็บต่อเส้นเอ็นเพิ่มขึ้นและหายช้ากว่าปกติได้
-
หลังจาก 3 วัน หรือหายบวมแล้ว สามารถประคบร้อนได้เพื่อให้เลือดไหลเวียน
หากมีอาการข้อเท้าแพลงอย่างรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสถาบันกระดูกและข้อ https://bit.ly/2Sc8VlL